(DEX) ปรับแผนรับค่าครองชีพพุ่ง ปั้นไลเซ่นส์”ไทย-โสม”เพิ่มงบตลาด

(DEX) ปรับแผนรับค่าครองชีพพุ่ง ปั้นไลเซ่นส์”ไทย-โสม”เพิ่มงบตลาด

ดรีมเอกเพรส์ (Dream Express) ปรับแผนธุรกิจ หลังค่าครองชีพชาวบ้านสูงขึ้น ชูการตลาดเป็นตัวนำ จากเดิมเซลกับตัวสินค้าชูโรง พร้อมอัดงบตลาดเพิ่มเป็น 30 ล้านบาท จากเดิมใช้แค่ 10 ล้านบาท ปั้น คาแรกเตอร์ไทย-เกาหลี พร้อมขยายไลน์นำหนังเข้าฉาย เสริมรายได้

นายกฤษณ์ สกุลพานิช กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดรีม เอกซ์เพรส (เดกซ์) จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดรวมลิขสิทธิ์คาแรคเตอร์ในปีนี้คาดว่าจะมีการแข่งขันกันรุนแรงมากขึ้น แม้ว่าจะมีนโยบายขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 300 บาท แล้วก็ตาม แต่ค่าครองชีพของผู้บริโภคก็สูงขึ้นตามไปด้วย ขณะที่สินค้าของเล่นหรือลิขสิทธิ์ที่เราทำอยู่นี้ ถือเป็นของไม่จำเป็นในชีวิตประจำวัน ทำให้การขยายคงจะลำบากมากขึ้น

แนวทางการธุรกิจปีนี้ของบริษัทฯจึงต้องปรับเปลี่ยนใหม่ หันมามุ่งเน้น การนำทำตลาดเป็นตัวนำ จากเดิมใช้สินค้าและการขายเป็นตัวนำ โดยการเพิ่มงบการตลาดรวมปีนี้มากถึง 20-30 ล้านบาท จากเดิมใช้เฉลี่ย 10 ล้านบาทเท่านั้น เพื่อรุกด้านการตลาดที่ทำการจัดโรดโชว์ การจัดกิจกรรม การร่วมมือกับพันธมิตรในการทำตลาดร่วมกัน และการขยายสู่ตลาดการนำเข้าหนังมาฉายในไทยมากขึ้น เป็นต้น 

นอกจากนั้นบริษัทฯยังอยู่ระหว่างการเจรจาซื้อไลเซ่นส์ลิขสิทธิ์ คาแรคเตอร์อื่นๆเพิ่มเติมที่เป็นญี่ปุ่น รวมทั้งการขยายสินค้าแรคเตอร์เกาหลี และคาแรกเตอร์ของไทยเองด้วยย เพื่อเป็นการขยายตลาดและสร้างโอกาสทางธุรกิจ ซึ่งล่าสุด ปีนี้ได้ลิขสิทธิ์ใหม่คือ “วันพีซ” (One Piece) ซึ่งเป็นการ์ตูนที่โด่งดังมากในญี่ปุ่น ล่าสุดได้พันธมิตรคือชาเขียวโออิชิ ซื้อลิขสิทธิ์คาแรกเตอร์วันพีซไปพิมพ์ลงบนบรรจุภัณฑ์นมกล่องยูเอชทีเป็นรายแรก ส่วนคาแรกเตอร์เกาหลีนั้นเริ่มแล้ว แต่เป็นคาแรกเตอร์ที่ผสมผสานกันระหว่างเกาหลีกับญี่ปุ่น ชื่อ “GONG” ซึ่งทางบริษัทฯได้รับลิขสิทธิ์แบบออลไรท์

นอกจากนั้นก็ยังได้ร่วมมือกับทาง “IGLOO” ซึ่งเป็นสตูดิโอของคนไทย ร่วมกันพัฒนาคาแรกเตอร์ ชื่อว่า “เดอะสลัดเวิลด์” ขึ้นมาทำตลาด ซึ่งเวลานี้หนังการ์ตูนแพร่ภาพทางทรูวิชั่นส์เมื่อปลายปีที่แล้ว 

นายกฤษณ์กล่าวด้วยว่า การร่วมมือกับพันธมิตรทำตลาดเช่น ไอศกรีมเนสท์เล่ ที่ซื้อลิขสิทธิ์บาคุกัน ภาคสาม เพื่อพิมพ์ลงบนซองและประชาสัมพันธ์ในรูปแบบของสื่อและพรีเมียมตลอดฤดูร้อนที่ผ่านมา หรือข้าวเกรียบกุ้งคาลบี้ก็ใช้คาแรกเตอร์ อุตตร้าแมน แคมปัสใช้คาแรกเตอร์มาส์กไรเดอร์ ทำตลาด เป็นต้น ซึ่งแต่ละแบรนด์ได้รับการตอบรับอย่างดี

ส่วนแผนการนำหนังเข้ามาฉายนั้น นายกฤษณ์ กล่าวว่า มูฟวี่มาร์เก็ตติ้ง ก็เป็นเครื่องมือการตลาดอีกชนิดหนึ่งที่จะเข้าถึงกลุ่มวัยรุ่นและครอบครัวได้มากขึ้น ซึ่งตลาดอานิเมชั่นมูฟวี่ในญี่ปุ่นมีขนาดใหญ่ไม่แพ้ตลาดภาพยนตร์ จากฮอลลีวู้ด เดกซ์จึงได้ทดลองนำภาพยนตร์ของแต่ละคาแรกเตอร์เริ่มเข้าฉายในโรงภาพยนตร์เป็นรอบพิเศษ ตลอด 2 ปีที่ผ่านมาได้รับการตอบรับอย่างดี วางแผนขยายตลาดด้านนี้เพิ่มขึ้น คาดว่าต้องลงทุนไม่ต่ำกว่า 10-20 ล้านบาท

ขณะที่ช่องทางรายได้ของบริษัทฯมาจาก การขายลิขสิทธิ์ให้กับคู่ค้าเจ้าของสินค้าหรือการทำเมอร์ชันไดซ์มีสัดส่วนรายได้ 30% ช่องทางโฮมวิดีโอ 30% รายได้จากการโฆษณาจากรายการฟรีทีวี เคเบิลทีวี ทีวีดาวเทียม และอื่นๆ40% ซึ่งตัวคาแรกเตอร์ที่ทำรายได้หลักให้กับบริษัทฯ เช่น วันพีซ, อุลตร้าแมน, มาส์กไรเดอร์, บาคุกัน เป็นต้น จากทั้งหมด 10 กว่าคาแรกเตอร์ที่ทำตลาดอบู่ เช่น กันดั้ม เพรตตี้เคียว แบทเทิลสปริต

สำหรับรายได้รวมของบริษัทฯปีนี้คาดว่าจะมีการเติบโต ซึ่งบริษัทฯมีส่วนแบ่งในตลาดรวมลิขสิทธิ์อินตอร์แบรนด์ ประมาณ 15% จากมูลค่าตลาดลิขสิทธิ์ 200 ล้านบาท

Manager Online