ข่าวลือ!! Studio Ghibli อาจเลิกทำภาพยนตร์แอนิเมชัน เพราะแบกรับค่าใช้จ่ายไม่ไหว

ข่าวลือ!! Studio Ghibli อาจเลิกทำภาพยนตร์แอนิเมชัน เพราะแบกรับค่าใช้จ่ายไม่ไหว

ย้ำอีกรอบว่าเป็นข่าวลือที่ยังไม่ยืนยันนะครับ

เว็บไซต์ญี่ปุ่น News Cafe อ้างแหล่งข่าววงในว่า Studio Ghibli สตูดิโอแอนิเมชันชื่อดังเจ้าของผลงานอย่าง My Neighbor Totoro และ Spirited Away อาจเลิก ทำภาพยนตร์แอนิเมชันฉายทางโรงแล้ว โดยภาพยนตร์เรื่องล่าสุด When Marnie Was There ที่เพิ่งฉายไปเมื่อไม่กี่วันก่อน อาจเป็น "หนังใหญ่" เรื่องสุดท้ายของบริษัท

เหตุผลของการหยุดทำภาพยนตร์แอนิเมชันคือเรื่องค่าใช้จ่ายที่บานปลาย เพราะ Studio Ghibli ใช้แรงงานแอนิเมเตอร์ภายในประเทศญี่ปุ่นทั้งหมด และใช้วิธีจ้างแบบเต็มเวลา (Permanent full-time) ทำให้ต้องแบกรับภาระเรื่องค่าแรงสูงมาก ในขณะที่สตูดิโออื่นๆ ใช้วิธีเอาท์ซอร์สงานแอนิเมชันไปยังประเทศอื่นๆ ที่ค่าแรงถูกกว่ากันหมดแล้ว

ข้อมูลจากหนังสือพิมพ์ Asahi Shimbun ระบุว่าภาพยนตร์ในปี 2013 ของ Ghibli คือ The Wind Rises สร้างรายได้เยอะเป็นประวัติการณ์คือ 9.23 พันล้านเยน แต่หักต้นทุนแล้วไม่กำไร ส่วนภาพยนตร์อีกเรื่องคือ The Tale of Princess Kaguya ทำรายได้ 5.1 พันล้านเยน แต่ในสายตาของสตูดิโอแล้วถือว่าไม่ประสบความสำเร็จ เมื่อบวกกับการวางมือจากการทำภาพยนตร์ของสองผู้ก่อตั้งคือ Hayao Miyazaki และ Toshio Suzuki ทำให้อนาคตของ Ghibli ยิ่งดูไม่สดใส

ในอดีตช่วงปี 2010 ตัวของ Miyazaki เองเคยกล่าวถึงแผนการปิดสตูดิโอลง โดยเขาเคยให้สัมภาษณ์ว่า Suzuki กำลังวางแผนเรื่องนี้ และในอนาคต Ghibli อาจจะมีพนักงานแค่ 5 คนเพื่อทำหน้าที่บริหารจัดการลิขสิทธิ์ของแอนิเมชันเก่าๆ เพียงอย่างเดียว

แนวทางหนึ่งที่เป็นไปได้ของ Ghibli คือการผันตัวมาทำแอนิเมชันทางทีวี โดย Goro Miyazaki ผู้กำกับอีกคน (และลูกชายของ Hayao Miyazaki) จะกำกับแอนิเมชันทางทีวีเรื่องแรก Ronia the Robber's Daughter ที่ร่วมผลิตกับบริษัท Polygon Pictures และใช้คอมพิวเตอร์กราฟิกเข้าช่วย

 

mk @ meconomics / Kotaku / NewsCafe